"ปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้"

“เศรษฐกิจพอเพียง” คำนี้คงเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่ทำให้ผู้คนต้องเริ่มปรับตัวเพื่อความอยู่รอด การปลูกพืชผักสวนครัวก็เป็นสิ่งหนึ่ง ที่เราสามารถทำเองได้ง่ายๆ โดยยึดหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เรื่องของการพึ่งพาตนเอง การสร้างความมั่นคงทางอาหาร หากมองย้อนกลับไป การทำเกษตรกรรม การปลูกพืชผักก็มีมาแต่โบราณ บรรพบุรุษของเราใช้สิ่งนี้เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต กล่าวถึงการปลูกพืชผักสวนครัว นับว่าเป็นการเริ่มต้นทำสิ่งเล็กๆ ที่ก่อเกิดประโยชน์มากมายในหลายด้าน

โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้น้อมนำโครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเองในพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาขยายต่อยอดสู่กิจกรรมตามแผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร  ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายไว้ 12 ล้านครัวเรือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันผู้นำชุมชน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดได้สร้างแบบอย่างที่ดี โดยการเริ่มลงมือทำก่อน เพื่อเป็นแนวทางให้กับประชาชนที่สนใจ ได้เริ่มปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเอง ซึ่งหากคำนวณแล้ว ครอบครัวหนึ่งต้องเสียเงินซื้อผักมาปรุงอาหาร อย่างต่ำต้องมี 50 บาท แต่ถ้าทุกครัวเรือนมีผักไว้กินเอง ก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายวันละ 50 บาท 12 ล้านครัวเรือน วันหนึ่ง 600 ล้าน   ปีหนึ่งก็ 2-3 แสนล้าน หากเรานำเงินจำนวนนี้ไปใช้เป็นทุนทำอย่างอื่น เศรษฐกิจเราก็จะมั่นคงเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงาน คืบหน้าถึง 80% แล้ว และยังคงทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบทุกครัวเรือน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมพื้นที่ใน กรุงเทพมหานครฯ 

การปลูกพืชผักสวนครัวที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะ เราสามารถใช้พื้นที่ ที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ โดยเราสามารถดัดแปลงสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว มาเป็นวัสดุที่ใช้ในการเพาะปลูก เช่น ปลูกใส่ถุง กระป๋อง ชามที่แตกหัก แก้วพลาสติกเราก็นำมาเพาะเมล็ด นับเป็นการบริหารจัดการขยะที่ดีอีกด้วย ยกตัวอย่างบ้านของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ มีพื้นที่เพาะปลูกไม่ถึง 50 ตารางเมตร แต่สามารถปลูกพืชผักสวนครัวได้ถึง 10-20 ชนิด เช่น แคร์ กระเพรา พริก มะเขือ ฟักทอง กระเจี๊ยบ ผักบุ้ง มะเขือเปราะ มะเขือกรอบ มะเขือเทศ เป็นต้น อย่างฟักทองเราสามารถกินได้ทั้งยอดและผล ช่วงที่เรากักตัวอยู่บ้านหรือว่า work from home เราก็สามารถสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับครอบครัว ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวได้ อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ คนในครอบครัวก็ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความรักความสามัคคี เด็กๆก็สามารถมีส่วนร่วมและส่งเสริมจินตนาการ ในการเลือกใช้วัสดุต่างๆ มาประดิษฐ์เป็นกระถางไว้เพาะปลูก นอกจากนี้การสร้างพื้นที่สีเขียวทำให้จิตใจเบิกบาน อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่ดีอีกด้วย และสิ่งสำคัญคือการที่เรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะพืชผักที่เราปลูกไว้กินเองนั้น ปลอดภัยจากสารพิษ สามารถเก็บไปปรุงอาหาร โดยที่ไม่ต้องออกไปซื้อนอกบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ โควิด 19 ในปัจจุบัน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้เผยความรู้สึกว่า “เมื่อเรารู้จักใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า จะส่งผลให้ชีวิตและโลกของเราดีขึ้น เพราะพวกเราทุกคนรู้จักใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ ลดการใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารพิษ ส่งผลให้สุขภาพของเราแข็งแรงตามไปด้วย และประเด็นสำคัญที่สุด โดยการนำของผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับท่านนายอำเภอ ช่วยกันให้คำแนะนำและปลูกฝังไปยังลูกหลาน นอกจากความภาคภูมิใจแล้ว หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพึ่งพาตนเองแบบนี้ จะฝังลึกเข้าไปในสายเลือดของคนไทย และยังคาดหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะอยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยตลอดไป แม้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า เราไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราจะไม่มีอาหารหรือพืชผักผลไม้กิน ในอนาคตถ้าเป็นไปอย่างที่ผมคาดไว้ นั่นก็คือ บ้านทุกบ้านสามารถทำมาหากินได้ แล้วมันจะกลายเป็นสิ่งที่เลี้ยงโลกได้ เพราะประเทศไหนก็ไม่มีภูมิอากาศ ที่เหมาะสมสำหรับการผลิตพืชผลเท่ากับประเทศไทย ถ้าคนไทยทุกคนเริ่มทำกันในครัวเรือน ทำเป็นกิจกรรมส่งผ่านรุ่นต่อรุ่น และสิ่งที่เขาพูดกัน เหมือนเราเห็นเป็นเรื่องขำขันว่า ครัวไทยจะเป็นครัวโลก สามารถกลายเป็นจริงได้แน่นอน ด้วยจุดเล็กๆเริ่มกันที่บ้านของพวกเรา”

เราจะเห็นได้ว่าการปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเองนั้น ล้วนมีแต่สิ่งดีๆและเกิดประโยชน์มากมาย ช่วงกักตัวอยู่บ้านแบบนี้ เรามาเริ่มลงมือทำกันเถอะ ถ้าอยากได้ความรู้เพิ่มเติมในการปลูกพืชผักสวนครัว มาร่วมแบ่งปันกันได้ที่ Facebook ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรัก กับพช.