สุดปัง ทำความรู้จักผ้ามัดหมี่ย้อมคราม จากกระแสลิซ่านำเทรนด์นุ่งผ้ามัดหมี่ย้อมคราม อีกหนึ่ง ซอฟต์เพาวเวอร์ ที่กำลัง ฟีเวอร์ อยู่ตอนนี้
หลังจากที่ ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล BLACKPINK นุ่งผ้าซิ่นเยือนถิ่นอยุธยา จนกระแสแรงฉุดไม่อยู่ ปลุกกระแส สวมผ้าไทย งามอย่างไทย ที่ลิซ่าและแก๊งเพื่อนสนิทอย่างนักแสดงสาว เดียร์น่า ฟลีโป้ ที่นำเทรนด์นุ่งผ้าซิ่นท่องเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา ซึ่งพิกัดผ้าสวย ๆ มาจากบ้านาข่า จังหวัดอุดรธานี ผ้ามัดหมี่ย้อมคราม เป็นหัตถศิลป์ที่ทรงคุณค่า ต้องอาศัยความชำนาญของการทำลายมัดหมี่ การย้อมคราม และการทอ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวอีสาน
วันนี้Backbone MCOT จะมาปักหมุดแหล่งผ้ามัดหมี่ย้อมครามที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี
- 1. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านนาข่า มีตลาดผ้านาข่า ซึ่งเป็นตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม ได้ชื่อว่าเป็น "ตลาดผ้าไทยที่ใหญ่ที่สุดในโลก" มีผ้าหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผ้าฝ้ายมัดหมี่ย้อมคราม
- 2. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านพรพิบูลย์ / บ้านดงยาง อำเภอพิบูลรักษ์ แหล่งทอผ้ามัดหมี่ย้อมคราม ที่ชาวบ้านสืบทอดกันมายาวนาน ปัจจุบันมีแม่ครูสมร คำวิเศษ ครูช่างศิลปหัตถกรรม ที่เป็นผู้นำในการอนุรักษ์
- 3. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเชียง อำเภอหนองหาน ผ้าย้อมครามไทพวนบ้านเชียง ที่มีเอกลักษณ์ มีกลุ่มทอผ้าย้อมคราม มีตลาดวัฒนธรรม ที่จำหน่ายผ้าทอของชุมชน โดยมีนายสมบัติ มัญญะหงส์ เป็นประธานกลุ่ม และมีร้านผ้าชุมชนเช่น ร้านพวนคอลเลคชั่น ร้านชวนไหมไทย ร้านประกายไหมไทย และร้านจำหน่ายผ้ากว่า 40 ร้าน
- 4. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนกอก อำเภอเมืองอุดรธานี มีทั้งผ้าย้อมคราม และย้อมดอกบัวแดง มีการทอผ้าฝ้ายมัดหมี่สลับขิด สืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าจากโบราณ
พูดคุยกับเข้าของร้านหลังจากนักร้องดัง ลิช่า BLAKPINK สวมผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมครามกัน
นางสุวิมล ไชยวงศ์ เจ้าของร้าน ซึ่งเป็นแม่ของนางเอกสาว เดียร์น่า ฟลีโป เจ้าของร้านผ้าไทยที่ ลิซ่าสวมใส่ ได้เล่าให้ฟังว่า...เปิดร้านจำหน่ายผ้าไทยมา 30 กว่าปี โดยคุณยายจะทอผ้าไทย ทั้งผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ผ้าหมี่ขิด ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน สำหรับใส่และขาย ต่อมาตนได้มาสานต่อ โดยที่ร้านจะเป็นผ้าทอมือ HAND MADE ทั้งหมด โดยจะเน้นลายโบราณ และย้อมสีจากธรรมชาติ และร้านของตนก็เป็นตัวแทนจำหน่ายด้วย
นางสุวิมล เล่าต่อว่า ส่วน เดียร์น่า ฟลีโป ลูกสาวรู้จักกับลิซ่า BLAKPINK ตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ เพราะทั้งสองคนจะไปเรียนร้องเพลงด้วยกัน จึงได้คบเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากตั้งแต่นั้นมา น้องเดียร์น่าได้โทรมาบอกว่า จะไปเที่ยววัดที่ จ.อยุธยา กับเพื่อนหลายคน อยากให้แม่ตัดผ้าถุงไทยมาให้เพื่อนได้ใส่ไปวัด จึงตัดส่งไปให้หลายลายและลายสี หนึ่งในนั้นมี “ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน” ลาย “ขอนาค” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวอิสาน เป็นลายโบราณ ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ทอไว้ใส่ไปทำบุญ งานมงคล และประเพณีต่างๆ แม้แต่ใส่ไปทำงานประชุมด้วย ซึ่งผ้ามัดหมี่ของชุมชนบ้านนาข่า มีมาตั้งแต่ก่อตั้งเมืองอุดรธานี จนถึงวันนี้ 130 ปีแล้ว ซึ่งลิซ่าเลือกใส่ผ้าลายนี้ และคนรุ่นใหม่ก็ให้ความสนใจกับผ้าลายไทยมากในปัจจุบัน
“รู้สึกดีใจมากที่น้องลิซ่าใส่ผ้าถุง เพราะเราไม่ได้คาดหวังว่าน้องจะใส่ ตัดเผื่อไปให้จะใส่หรือไม่ใส่ก็ไม่เป็นไร พอน้องเลือกใส่ก็ดีใจมาก เพราะน้องเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ เผื่อเป็นแบบให้คนรุ่นใหม่ใส่ผ้าไทยเข้าวัด ที่เด็กวัยรุ่นยุคใหม่ หันมาสวมใส่ผ้าถุงไทยเข้าวัดตามน้อง ขอบคุณที่น้องเลือกใส่ผ้าไทย ทำให้คุณรุ่นใหม่มองเห็นคุณค่าของผ้าไทยด้วย หากใครยากได้แนวให้ทันสมัย ก็สามารถออกแบบมาให้ทางร้านเราตัดให้ได้ตามที่ต้องการ”
นางสุวิมล เล่าต่อว่า หลังจากน้องลิซ่าใส่ผ้าถุง “ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน” ที่ส่งไปให้ ก็มียอดสั่งซื้อเข้าทะหล่มทะลายเลยก็ว่าได้ แต่ก็มีควาหนักใจที่ผลิตไม่ทันลูกค้า และอยากขอบอกลูกค้าว่าตอนนี้ไม่มีผ้าขาย เพราะขายหมดเกลี้ยงร้านแล้ว และต้องรอคิว หากอยากได้ให้พีออเดอร์เข้ามาทางเพจร้าน “ชานเรือน นาข่า” ไอจี ชานเรือน นาข่า ซึ่งตอนนี้มียอดเข้ามาเยอะมาก แต่ยังคงราคาเท่าเดิม คือผ้าถุงที่ตัดสำเร็จแล้วราคาจะอยู่ที่ 2,800 บาท ทุกไซต์ทุกขนาด หลังจากนี้จะได้ให้ชาวบ้านเร่งทอ ถือว่าเป็นการกระจายรายได้ ลูกค้าจะต้องรอประมาณ 1 เดือน ตามคิวสั่งจอง......
