X

กราบพระบรมสารีริกธาตุ วัดทุ่งเซียด.. โบสถ์สวยกลางน้ำ หนึ่งเดียวในสุราษฎร์ฯ

26 ก.ย. 2567
390 views
ขนาดตัวอักษร

ร่วมสักการะพระสารีริกธาตุเสด็จมาเอง บนเรืออุโบสถสวยกลางน้ำ ของวัดทุ่งเซียด  อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมยุคอาณาจักรศรีวิชัย ตรงกลางเป็นอุโบสถหลังใหญ่ที่ประดิษฐานพระประธานของวัด รายรอบด้วยศาลาจตุเทพ และพระอรหันต์รูปต่างๆ และด้านอุโบสถเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุเจดีย์นาวาศรีวิชัย”


รูปภาพผลึกแก้วทรงกลมสีสุกใส คือ องค์พระบรมสารีริกธาตุ ที่มีมาเอง ตามความเชื่อของชาวบ้านรอบวัดทุ่งเซียด ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และตามบันทึกต่างๆ ในไทย ที่เคยพูดถึงการเสด็จมาเอง ของพระบรมสารีริกธาตุในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางวัดทุ่งเซียด ได้นำเก็บบรรจุในเจดีย์จำลององค์พระบรมธาตุไชยา ราชวรวิหาร อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานีให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะ ตามความเชื่อของชาวพุทธ เพิ่งได้อัญเชิญกลับมาไว้ที่วัดทุ่งเซียดบนเรืออุโบสถสวยกลางน้ำ


ซึ่งพระครูสารโสตถิคุณ เจ้าอาวาสวัดทุ่งเซียด กล่าวว่า เดิมทีก็เคยได้ยินมานาน เรื่องการเสด็จมาเองของพระบรมสารีริกธาตุ แต่เชื่อเพียงแค่ร้อยละ 50 จนเมื่อ วันที่ 3 ก.ย. 2548 ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น เมื่อเวลาใกล้รุ่ง ขณะกำลังจะตื่นเพื่อทำวัตรเช้า ได้ยินเสียงในหูดังกริ๊กเหมือนวัสดุตกเบาๆ เมื่อตื่นขึ้นมาใช้ไฟฉายส่อง พบว่าผลึกแก้วทรงกลมขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร สีแวววาว วางอยู่ ซึ่งก็แปลกใจว่ามาอยู่ได้อย่างไร เพราะในกุฏิที่จำวัดเป็นห้องปิด มีฝาทั้งห้องไม่มีช่องให้วัสดุรอดผ่านได้ จึงได้เก็บไว้  ต่อมามีชาวบ้านมาบอกว่าตอนที่ออกไปกรีดยางในช่วงเช้ามืด เห็นแสงประหลาดที่บริเวณวัด เหมือนแสงสีเหลืองและมีแสงเหมือนลูกไฟพุ่งขึ้น จนชาวบ้านไม่กล้ากรีดยางพารา


จึงมีความเชื่อว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุ ที่เสด็จมาเองตามคำบอกเล่าของชาวพุทธในประเทศไทย ต่อมาวันที่ 16 ก.ย.2549 ได้เกิดเหตุอัศจรรย์อีกครั้ง แต่เป็นห้องที่ใช้จำวัดอีกห้องหนึ่งในกุฏิหลังเดียวกัน มีเสียงคล้ายวัตถุขนาดเล็กตกเช่นเดิม เมื่อใช้ไฟส่องหา ก็พบผลึกแก้วขนาดใกล้เคียงกัน อยู่ในห้องปิดเช่นปีก่อนจึงเก็บไว้ โดยครั้งนี้ ชาวบ้านบอกว่าเห็นแสงเป็นสีขาวนวล  จึงได้ตั้งชื่อ พระบรมสารีริกธาตุองค์แรกว่าพระสุริยัน เพราะแสงที่พบเห็นเป็นสีเหลืองอมส้ม คล้ายแสงอาทิตย์ และองค์ที่ 2 ชื่อ พระจันทรา เพราะมีแสงนวลสีขาวคล้ายแสงจันทร์


เมื่อเชื่อว่า พระบรมสารีริกธาตุทั้งสอง ได้เสด็จมาเพื่อโปรดพุทธศาสนิกชน แห่งวัดทุ่งเซียด โดยในปี 2556 ทางวัดได้สร้าง “พระธาตุเจดีย์นาวาศรีวิชัย” ที่จำลองแบบมาจากพระบรมธาตุไชยา ราชวรวิหาร ที่ตั้งอยู่บนอุโบสถ กลางน้ำ ที่ออกแบบเป็นรูปเรือที่สวยงาม จึงนำพระบรมสารีริกธาตุสุริยันจันทรา บรรจุในเจดีย์ ร่วมกับพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับมอบจากพระสังฆราชจำนวน 9 องค์ และเดินทางไปรับพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประเทศอินเดียอีกจำนวนมาก รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุ ที่เชื่อว่าเสด็จมาเองในพื้นที่ต่างๆ ที่มีผู้นำมาถวายบรรจุในเจดีย์รวมแล้วกว่า 100 องค์ ให้ประชาชนได้สักการะ และชมความงามของอุโบสถกลางน้ำของวัดทุ่งเซียดแห่งนี้


สำหรับอุโบสถสวยกลางน้ำ ก่อสร้างด้วยแรงศรัทธา ของพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมยุคอาณาจักรศรีวิชัย ตรงกลางเป็นอุโบสถหลังใหญ่ ที่ประดิษฐานพระประธานของวัด รายรอบด้วยศาลาจตุเทพ และพระอรหันต์รูปต่างๆ และด้านอุโบสถเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุเจดีย์นาวาศรีวิชัย” ส่วนบริเวณทางเข้าอุโบสถ มีรูปปั้นพญานาค 4 ตน และช้าง สัตว์คู่บารมี และคู่บุญของ พ่อท่านเซียด เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดทุ่งเซียด ถือเป็นหนึ่งในห้าอุโบสถกลางน้ำ ที่สวยงามติดอันดับของประเทศไทย


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2018 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล