รูปปั้นพญายักษ์โบราณยืนคู่กันที่วัดอรุณราชวราราม ถือเป็นรูปปั้นพญายักษ์ที่เก่าที่สุด ตามประวัติมีบันทึกไว้ว่า "สำหรับยักษ์ที่วัดแจ้ง มีอยู่ 2 ตน ยืนอยู่ที่หน้าซุ้มประตูมงกุฎ หน้าพระอุโบสถข้างละตน ยักษ์และประตูนี้เป็นของที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้สร้างขึ้นมาตอนปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 3 " จากข้อมูลนี้ ยืนยันว่า ยักษ์วัดแจ้งเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่สาม
วัดอรุณราชวราราม นามเดิมชื่อวัดมะกอก บ้างก็เรียกวัดมะกอกนอก คู่กับวัดมะกอกใน คือ วัดนวลนรดิศ (ที่เรียกมะกอกนอกเพราะอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่) วัดมะกอกนอกเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้ง เมื่อพระเจ้าตากสินยกทัพมาถึงเวลาเช้าที่เมืองบางกอกตรงที่วัดมะกอก และกลายเป็นวัดอรุณราชวรารามในเวลาต่อมา
พญายักษ์วัดแจ้งจัดสร้างขึ้นตามคติพระพุทธศาสนา คือพญายักษ์เป็นธรรมบาลผู้คุ้มครองธรรม คุ้มครองโลกคุ้มครองคนดีเป็นตัวแทนของเทวดามเหสักข์แห่งวัดอรุณราชวราราม เป็นเจ้าแห่งภูตผี ปีศาจ บรรดาผีปีศาจทั้งหลายต่างเกรงกลัวทั้งสิ้น
พญายักษ์วัดแจ้งเป็นตัวแทนของหิริโอตตัปปะ และพรหมวิหาร 4 เป็นพญายักษ์ที่มีเกียรติ มีฤทธิ์ไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดิน
งานศิลปะที่องค์พญายักษ์ทั้งสองได้สะท้อนถึง 9 เอกลักษณ์ของพญายักษ์วัดแจ้งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน คือ มีศีรษะตรีชั้นหมายถึง เทินกันเป็น 3 ชั้น ยอดบนสุดเป็นหน้าเทพแสดงถึงวงศ์แห่งพระพรหม ความรู้และอำนาจที่ครอบงำได้ทั้งสามโลก (สหัสเดชะ)ใบหน้านับรวมได้ 10 หน้า หมายถึง ศาสตร์ทั้ง 6 และพระเวทย์ทั้ง 4 (ทศกัณฐ์) ยืนแบบเหลี่ยมยักษ์อย่างชัดเจน คือกางขาออก ย่อเข่า เป็นลักษณะที่แสดงถึงความแข็งแรงและพลังอำนาจ พละกำลังอันมหาศาล ความน่าเกรงขาม พญายักษ์ที่มีรากเหง้าจากรามเกียรติ์วรรณกรรมของฮินดูก็จริงแต่นำมาสร้างในคติของพระพุทธศาสนา เป็นพญายักษ์ที่สร้างตามศิลปะแบบโขนละครไทยอย่างถูกต้อง ถือเป็นครูทางโขนละครที่ได้รับความนิยมเชื่อถืออย่างสูงด้วย
มีอินทรธนูอันเป็นเครื่องประดับยศของชุดที่หัวไหล่ อินทรธนูเป็นสัญลักษณ์สำคัญของตัวยักษ์และตัวพระ ซึ่งวัตถุมงคลยักษ์อื่นๆ มักทำอินทรธนูรวมๆไปกับกรองศอจนแทบกลืนกันไป แต่พญายักษ์วัดแจ้งมีอินทรธนูที่ดูเด่นงดงามแสดงถึงความมียศถาบรรดาศักดิ์อันยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจเหนือเหล่าบรรดายักษ์และภูตผีทั้งปวง มีทองกรหรือกำไลแผง สัญลักษณ์แห่งการทำมาค้าขายสิ่งใดก็มีกำไร เป็นเจ้าสัวเป็นเศรษฐี มีธำมรงค์หรือแหวน เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นราชา ความมีอำนาจ มีเสน่ห์ซึ่งยักษ์ที่อื่นจะไม่มีแหวน กระบองของพญายักษ์วัดแจ้ง เป็นกระบองประดับนพรัตน์ มิใช่กระบอกเกลียวตาลแบบยักษ์ทั่วไปที่เคยเห็น มาจากคุณวิเศษของไม้เท้าสหัสเดชะคือต้นชี้ตายปลายชี้เป็น ซึ่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าพญายักษ์ตนใดๆ
คุณลักษณะมงคลอันเป็นเอกลักษณ์ทั้ง 9 ประการที่ถือว่าพญายักษ์วัดแจ้งเป็นยักษ์ในวัง และสร้างได้ถูกต้องตามศิลปะโขนละคร ถูกต้องตามศาสตร์ และเป็นเอกลักษณ์ที่ยักษ์อื่นๆไม่มี มีที่นี่ที่เดียว พญายักษ์วัดแจ้ง พญายักษ์ผู้พิทักษ์วัดอรุณราชวราราม
ปกติการสร้างยักษ์ไว้ในวัดจะเป็นยักษ์คู่สองตนคือ ทศกันฐ์ และ สหัสเดชะ ถือเป็นยักษ์ที่มีอิทธิฤทธิ์สูงสุดเป็นที่เคารพ คติยักษ์ทวารบาลคู่ ทศกัณฐ์ สหัสเดชะ มีอยู่ทุกวัด ตั้งแต่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดอรุณราชวราราม หรือจะเป็นวัดเก่าๆ ทางอยุธยา จะยึดคติทวารบาลคู่ด้วยสองยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่
ถ้าพูดถึงยักษ์วัดแจ้งแล้วจะไม่พูดถึงยักษ์วัดโพธิ์คงไม่ได้ ยักษ์วัดโพธิ์นั้นมีมากกว่ายักษ์วัดแจ้ง เดิมมี 8 ตน ทำหน้าที่ เฝ้าหอไตรจตุรมุข (พระมณฑป) ตรงซุ้มประตูทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 1 คู่ คือ ทศกัณฐ์กับสหัสเดชะ อยู่ที่ประตูทิศตะวันออกเฉียงเหนือและ อินทรชิตกับสุริยภพ อยู่ที่ประตูทิศตะวันออกเฉียงใต้ ต่อมารัชกาลที่สาม ให้รื้อออก ระเบียงพระมหาเจดีย์ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้รื้อซุ้มประตูออกไป 2 ซุ้ม จึงเหลือยักษ์ 2 คู่ คือ มัยราพณ์กับแสงอาทิตย์ อยู่ที่ประตูทิศตะวันตกเฉียงใต้ และพญาขรกับสัทธาสูร อยู่ที่ประตูทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ถ้าเทียบศักดิ์ของยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์ที่มีอยู่ตอนนี้ถือว่าศักดิ์ของยักษ์วัดแจ้งที่เหลือนั้นสูงกว่า เพราะเป็นพญายักษ์ระดับจอมยักษ์