บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ ผ่านการให้บริการไปรษณีย์รูปแบบดิจิทัล อำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ SMEs ไทย
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า การเป็น Information Logistics เรามีควาทพร้อมสนับสนุนการให้บริการที่แม่นยำ รวดเร็วตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผู้ประกอบการร้านค้าให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนและความนิยมที่มากขึ้น และธุรกิจนี้จำเป็นต้องมีเครื่องมือและองค์ความรู้ใหม่เข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
"ความร่วมมือในครั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยพร้อมเชื่อมโยงระบบดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นไว้ในแพลตฟอร์ม และจะมีการสนับสนุนงานด้านข้อมูลทางวิชาการ - นวัตกรรมที่จำเป็นต่อภาคธุรกิจและสนับสนุนให้การทำงานของทั้ง 2หน่วยงานมีมาตรฐานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร หรือ Prompt Post ภายในมีระบบที่รองรับการรับ-ส่งเอกสารในรูปแบบ e-Document และรองรับการทำธุรกรรมออนไลน์ครบวงจร เช่น เป็นตัวกลางในการรับส่งเอกสารผ่าน Digital Mailbox, รับแจ้งหนี้และรับชำระเงินผ่าน e-Payment, Digital Signature การรับรองการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ การสนับสนุนการบริการไปรษณีย์ตอบรับในประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Acknowledgement of Receipt: E - AR) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการตรวจสอบสถานะการจัดส่งสิ่งของการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการพัฒนาระบบบริการปักหมุดตำแหน่งที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลตามโครงการพัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล (หรือ DBD Biz Regist) โดยนำ จุดแข็งด้านเครือข่ายพี่โปรฯ หรือ Postman Cloud มาสนับสนุนให้การเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งธุรกิจที่มีความแม่นยำ รวมทั้งโครงการ D/ID ซึ่งเป็นจ่าหน้าแบบใช้รหัส ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของโดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่อยู่ร่วมกันกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วยการแปลงข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันให้พร้อมรับ กับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตลอดจนการเชื่อมโอกาสผู้ประกอบการนำสินค้าจำหน่ายบน ThailandPostMart แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชของไทยที่รวบรวมสินค้าตัวท็อปจากทุกภูมิภาคกว่า 20,000 รายการ จากผู้ประกอบการกว่า 6,000 ราย และไปรษณีย์ไทยยังพร้อมสนับสนุนให้ร้านค้าโชห่วยเป็นจุดรับส่งสินค้า EMS Point เพื่อสร้างรายได้และเพิ่มความสะดวกให้กับการรับฝากสิ่งของ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจร้านอาหาร คาเฟฯลฯ ที่สนใจเปิดจุดให้บริการเพิ่มรวมแล้วกว่า 10,789 แห่ง"
สำหรับความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และไปรษณีย์ไทยจะช่วยส่งเสริมสนับสนุน ผู้ประกอบการไทยให้มีความเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนต่อไป
**********
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดึงหน่วยงานพันธมิตรลงนามความร่วมมือ 2 ฉบับเพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ SMEs ไทย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดึงหน่วยงานพันธมิตรลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) รวม 2ฉบับ โดยฉบับแรกเป็น
การพัฒนาแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ที่รวบรวมซอฟต์แวร์และเครื่องมือในการทำธุรกิจไว้ในที่เดียวร่วมกับสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย
การเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกับไปรษณีย์ไทยเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเป้าหมายสำคัญของ MOU ทั้ง 2 ฉบับเพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ SMEs ไทย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับหน่วยงานพันธมิตร รวม 2 ฉบับในวันนี้ (วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567) ว่า ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprses)หรือ SMEs เป็นธุรกิจรากฐานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโต เพราะเป็นธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้กระจายสู่ท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่ผ่านมา ธุรกิจ SMEs ต่างประสบปัญหา/อุปสรรค และความท้าทายในการประกอบธุรกิจหลากหลายประการ ตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจ ไปจนถึงการขาดแคลนเงินทุน ทำเลการค้า ช่องทางในการทำการค้าและการตลาด รวมถึงเครื่องมือที่จะมาช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจหากได้รับการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเหมาะสม SMES ไทยจะเติบโตอย่างแข็งแรงสามารถแข่งขันกับองค์กรธุรกิจของประเทศอื่นๆ ได้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีภารกิจและหน้าที่หลักในการส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน จึงมีแนวคิดในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ หรือ SMEs Business Ecosystem เพื่อพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพในการบริหารจัดการธุรกิจของ SMEs ด้วยเทคโนโลยี เป็นการส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการและช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย จึงเป็นที่มาให้เกิดการลงนามความร่วมมือจำนวน 2 ฉบับ คือ 1) การพัฒนาแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวบรวมซอฟต์แวร์และเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจให้เลือกใช้งานเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจ SMEs ไทย ให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล 2) การเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อประโยชน์ต่อการส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการ และสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการไทย
MOU ฉบับแรกเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ได้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย (Thai Startup Association) และบริษัท บิซิเนส ออนไลน์จำกัด (มหาชน) หรือ BOL โดยเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวบรวมเครื่องมือในการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจไว้ในที่เดียวเพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนการประกอบธุรกิจของ SMEs ไทยให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ใน ยุคดิจิทัล และในระยะถัดไปจะพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าวให้เป็น Portal กลางเพื่อเป็นศูนย์รวมบริการของผู้ประกอบธุรกิจ ให้สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น เช่น บริการด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ช่องทางการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ การบริหารบัญชีและการเงิน การบริหารความเสี่ยง และด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังมีแผนในการรวบรวมบริการจากหน่วยงานภาครัฐ Goverment Sevice ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการมาเชื่อมโยงกับ DBD SMEs 360 ด้วย หรือแม้แต่การค้นหาผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และเครื่องมือใหม่ๆ มาร่วมบนแพลตฟอร์ม โดยมีการวางแผนไว้ว่าจะร่วมมือกับโครงการ ต่างๆ เช่น โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาด
กลาง และขนาดย่อม (สสว.) หรือ โครงการของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เพื่อช่วยเปิดตลาดในการจับคู่ผู้ใช้งานกับซอฟต์แวร์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการใช้บริการที่หลากหลายในส่วนของ MOU ฉบับที่ 2 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของทั้ง 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้บริการลูกค้าและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ข้อมูลทางวิชาการ และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโดยจะร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมการให้บริการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร (Prompt Post), บริการไปรษณีย์ตอบรับในประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Adowledgement of Receipt : EAR) และบริการปักหมุดตำแหน่งที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลตามโครงการพัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล (DBD Bi Regist) และโครงการ Digtal Post ID (DID) รวมไปถึงจะร่วมกันสร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการชุมชน และ SMES ให้นำสินค้าไปจำหน่ายบนเว็บไซต์ ThalandPosthartcom โดยจะ พิจารณาสิทธิประโยชน์ในการจัดส่งสินค้าที่จำหน่ายผ่าน e-Commerce และให้ร้านค้าโชห่วยเป็นจุดรับส่งสินค้าให้แก่ไปรษณีย์อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์หลักของ MOU ทั้ง 2 ฉบับ เพื่อสร้างความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและบูรณาการความร่วมมือ ในการส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการให้มีมาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและประชาชน รวมไปถึงการร่วมกันสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ SMEs ไทย ซึ่งจากนี้ไปทุกหน่วยงานที่ได้ลงนามความ ร่วมมือในวันนี้จะเดินหน้าดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ภายใต้บันทึกข้อตกลง โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ SMEs ไทยมีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนตามนโยบายของ รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์