อีกหนึ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เหมือนใคร ของวัดสระเกศ ที่อาจทำให้คุณต้อง #หลงรักไทย ไปชมภาพวาด หนึ่งเดียว พระราหูทรงสไนเปอร์เล็งโลก “ ความเป็นมาของภาพนี้เป็นมายังไงมาฟังคำตอบความเป็นมาของภาพนี้เป็นมายังไงมาฟัง จิตรกรผู้ว่าฯเล่าให้ฟัง
อาจารย์พีระพงศ์ ขุนจิตตต์ จิตรกรผู้วาดภาพ พระราหูทรงสไนเปอร์ เล่าถึงภาพพระราหูถือปืนสไนเปอร์เล็งโลก ที่ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศราชวรวิหาร ว่า การวาดรูปพระราหูถือปืนสไนเปอร์เล็งโลก มีเจตจำนงบันทึกภาพเหตุการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นกับเมืองไทย เมื่อเดือน พ.ค. 2553 ภาพไม่ได้ต้องการให้มีความหมายทางการเมือง แต่ต้องการที่จะสะท้อนปริศนาธรรม การวาดภาพเทพ เทวดา ตามหลักโหราศาสตร์เป็นหลัก และหากมองจากจุดที่เป็นปืนสไนเปอร์แล้วจะพบว่า เป็นเส้นนำสายตาไปยังเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ถือเป็นหลักการของศิลปะ ที่จะต้องมีเส้นนำสายตาดึงความสนใจของคน และที่สำคัญภาพนี้จะมีอายุนานเป็นร้อยๆ ปี เพราะมีการวาดลงบนผ้าลินิน และใช้สีที่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีความคงทนอยู่ได้นานเป็นร้อยปี
ภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาพชุด “ 1 แสนโกฏิจักรวาล" ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภายในศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ ด้านตรงข้ามกับพระพุทธรูปหลวงพ่อดวงดี พระราหูมีสถานะเป็นทั้งเทพและยักษ์ ความหมายตามในภาพดังกล่าวเปรียบให้เป็นตัวแทนของความโลภ โกรธ หลง คนเราเมื่อเกิดความโลภ แม้แต่เทพยังกลายเป็นยักษ์ได้เลย เมื่อเกิดกิเลสกลายเป็นยักษ์จึงใช้สไนเปอร์ที่เปรียบเสมือนอำนาจ ไปใช้ในทางที่ผิด โดยเล็งไปยังโลก คือ การทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าสังเกตดีๆ บนเศียรพระราหูจะมีรูปพระพุทธรูปเล็กๆ เปรียบเสมือนว่าคนที่มีอำนาจ ถ้ามีหลักธรรมอยู่ในจิตใจ ก็จะสามารถทำให้โลกบังเกิดสันติสุขได้
ภาพสอดแทรกปริศนาธรรม เพราะพระราหูมีสถานะเป็นทั้งเทพและยักษ์ ความหมายตามในภาพเปรียบ พระราหูเป็นตัวแทนของความโลภ โกรธ หลง สรรพสัตว์เมื่อเกิดความโลภ แม้แต่เทพยังกลายเป็นยักษ์ เมื่อเกิดกิเลสกลายเป็นยักษ์จึงใช้ปืนสไนเปอร์ที่เสมือนการนำอำนาจ ไปใช้โดยเล็งปืนไปยังโลก ทำให้ผู้คนอื่นเดือดร้อนสังเกตบนเศียรพระราหูจะมีรูปพระพุทธรูปเปรียบเสมือนว่า การมีหลักธรรมอยู่ในจิตใจ หากยึดมั่นในพระรัตนตรัยย่อมใช้ธรรมนำทางให้เกิดสันติสุขได้ ชมภาพจิตรกรรม พระราหูทรงสไนเปอร์ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. ที่ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศฯ