X

ลุ้น! “ภูพระบาท” เป็นมรดกโลก ประชุมเวทีมรดกโลก ปลายเดือน ก.ค. นี้

3 ก.ค. 2567
360 views
ขนาดตัวอักษร

3 ก.ค.67 - สผ. เตรียมการพร้อม ผลักดัน “ภูพระบาท” เป็นมรดกโลก ในการประชุมเวทีมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ปลายเดือน กรกฎาคม นี้


นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัด ทส. กล่าวว่า การเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ที่กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21 - 31 กรกฎาคม 2567 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยการประชุมในปีนี้คณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก โดยมี สผ. ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติเป็นเลขานุการคณะ


นายประเสริฐ ศิรินภาพร เลขาธิการ สผ. กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งนี้ราชอาณาจักรไทยจะเข้าร่วมการประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์การประชุม


โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยทุกคนที่จะมีการพิจารณาในช่วงระหว่างวันที่ 26 - 29 กรกฎาคม 2567 จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่


👉1. การพิจารณาบรรจุแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “สงขลา และชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา” ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ซึ่งการดำเนินการนำเสนอแหล่งดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 โดยพื้นที่นำเสนอประกอบด้วย 4 พื้นที่ ได้แก่ (1) เมืองโบราณพังยาง เมืองโบราณพะโคะ และเมืองโบราณสีหยัง (2) เมืองโบราณสทิงพระ (3) เมืองป้อมค่ายซิงกอร่า ณ เขาแดง และแหลมสน และ (4) เมืองเก่าสงขลา บ่อยาง ทั้งนี้ ขั้นตอนภายหลังจากคณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาให้การรับรองราชอาณาจักรไทยจะสามารถจัดส่งเอกสารนำเสนอเป็นแหล่งมรดกโลกต่อคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อพิจารณาได้

👉2. การพิจารณาขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท”                 เป็นมรดกโลก โดยพื้นที่นำเสนอประกอบด้วย 2 พื้นที่ คือ (1) อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และ                   (2) แหล่งวัฒนธรรมสีมา ขณะนี้ (ร่าง) ข้อมติเสนอให้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นแหล่งมรดกโลก ประเภทภูมิทัศน์วัฒนธรรม และเสนอให้เปลี่ยนชื่อแหล่งเป็น “Phu Phrabat, a testimony to the Sima stone tradition of the Dvaravati period” หรือ ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี รวมทั้งขอให้ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ภายหลังจากการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ด้วยคุณค่าความโดดเด่นของการที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมสีมาในสมัยทวารวดี โดยนับเป็นแหล่งสีมาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในการทำหน้าที่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา และแสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพทางธรณีวิทยาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เป็นต้นมาในฐานะของการเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และพื้นที่ประกอบพิธีกรรม


นางสาวกรพินธุ์ พยัคฆประการณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานการบริหารจัดการมรดกโลก กองจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม กล่าวว่า การนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมสงขลาฯ เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลกเป็นดำริและดำเนินการขับเคลื่อนโดยมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลกซึ่งเป็นภาคประชาสังคมในระดับท้องถิ่นที่ตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นและต้องการยกระดับความภาคภูมิใจในคุณค่าและความสำคัญของแหล่งในท้องถิ่นของตนให้ได้รับการยอมรับ ในระดับสากล 


“ในส่วนของการขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทนั้น หากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจะเป็นแหล่งมรดกโลกแหล่งที่ 8 ของราชอาณาจักรไทย” 

และจังหวัดอุดรธานี นับเป็นจังหวัดแรกที่มีแหล่งมรดกโลกจำนวน 2 แหล่งในพื้นที่ต่อจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกประเภทต่าง ๆ นั้น นอกจากเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศในเวทีนานาชาติ และก่อให้เกิดความภาคภูมิใจให้กับประชาชนในพื้นที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น การก่อให้เกิดรายได้และการสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเนื่องมาจากการท่องเที่ยวการส่งเสริมการอนุรักษ์ และปกป้องคุ้มครองอัตลักษณ์และทรัพยากรของท้องถิ่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลก และการยกระดับการวิจัยในด้านต่าง ๆ ร่วมกันระหว่างประเทศต่าง ๆ ในการปกป้อง คุ้มครองอนุรักษ์และบริหารจัดการแหล่งฯ เป็นต้น

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2018 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล