X

“ยักษ์คู่” วัดแจ้ง คือใคร? สนิทกันแค่ไหนถึงต้องยืนคู่กัน

2 พ.ย. 2567
110 views
ขนาดตัวอักษร

2 พ.ย.67 - “ยักษ์คู่” วัดแจ้ง คือใคร? สนิทกันแค่ไหนถึงต้องยืนคู่กัน


ความสัมพันธ์ที่ไม่ซับซ้อนของยักษ์คู่แห่งวัดแจ้ง (วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร) ที่ยืนเฝ้าเป็นทวารบาลหน้าประตูซุ้มทางเข้าพระอุโบสถ ซึ่งแยกเด่นชัดจากสีกาย ยักษ์ตนซ้ายนาม “ท้าวทศกัณฐ์” กายสีเขียว ยักษ์ตนขวานาม “ท้าวสหัสเดชะ” กายสีขาว ทั้งสองตนเทียบชั้นเป็นยักษ์ระดับเจ้าเมืองกันทั้งคู่ ทศกัณฐ์เป็นเจ้ากรุงลงกา ส่วนสหัสเดชะเป็นเจ้าเมืองปางตาง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ถ้าพูดกันภาษาชาวบ้าน คือ “ทศกัณฐ์ เป็นเพื่อนรักของน้องชายสหัสเดชะ”

ในจักรวาลมหาสงครามรามเกียรติ์ “มนุษย์รบยักษ์” ทศกัณฐ์ตกเป็นยักษ์ฝ่ายผู้ร้าย มีผองเพื่อนเป็นเจ็ดอสูรครองเมืองต่างๆ หนึ่งในเพื่อนซี้ทศกัณฐ์ คือ พญามูลพลัม อุปราชเมืองปางตาล ซึ่งเป็นน้องชายของสหัสเดชะที่นั่งเป็นเจ้าเมืองอยู่ ครั้งหนึ่งเมื่อทศกัณฐ์ออกรบโดยชวนมูลพลัมติดตามไปด้วย ในสงครามครั้งนั้น มูลพลัมพลาดท่าเสียที ต้องศรพลายวาตของพระลักษมณ์จนตาย ท้าวสหัสเดชะพี่ชายโกรธจัด จึงยกทัพออกรบพระราม


แม้รูปปั้นยักษ์คู่วัดแจ้งจะดูคล้ายกัน ต่างกันเพียงสีกาย แต่ตามตำนานรามเกียรติ์นั้น สหัสเดชะตนด้านขวา มีใบหน้าเยอะกว่ามาก ถ้าอยากมีสิบหน้าอย่างทศกัณฐ์แล้ว ลองมีหน้าอย่างสหัสเดชะบ้างจะยิ่งกว่า เพราะสหัสเดชะมีใบหน้ามากกว่าหนึ่งร้อยเท่า โดยสหัสเดชะเป็นยักษ์พันหน้า สองพันมือ แถมมีไอเท็มลับสุดพิเศษ เป็นกระบองชื่อ “ต้นชี้ตายปลายชี้เป็น” อาวุธทำลายล้างสูงคู่กาย ที่แม้เพียงชี้ส่วนต้นกระบองไปที่ใคร ผู้นั้นจะต้องตายโดยไม่ต้องเสียแรงรบ แต่ถ้าหากชี้ส่วนปลายไปทางใคร แม้ผู้นั้นตายไปแล้ว ก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้

กลับมาที่ยักษ์คู่แห่งวัดแจ้ง ยักษ์สองตนนี้หากถือตามการสันนิษฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ อันปรากฏในลายพระหัตถ์เรื่องสาส์นสมเด็จแล้ว ช่างปั้นผู้นั้นคือ หลวงเทพรจนา (กัน) ช่างฝีมือสมัยรัชกาลที่ 3 ที่ปั้นยักษ์ด้วยปูนประดับกระเบื้องสี เป็นลวดลายเครื่องแต่งตัวอันงดงามน่าเกรงขาม


ส่วนจุดจบของสหัสเดชะในเรื่องรามเกียรติ์นั้น อาวุธทำร้ายล้างสูงอันแสนวิเศษต้องมาพบจุดจบจากวานรสีกายขาวเช่นเดียวกัน นั่นคือ หนุมาน แต่ไม่ใช่การสู้รบกันอย่างตรงไปตรงมา หนุมานใช้อุบายแปลงร่างเป็นลิงน้อยไปขวางทัพสหัสเดชะ โดยแต่งเรื่องหลอกว่า อยากอาสาไปช่วยรบ เพราะเดือดร้อนจากกองทัพพระรามเหลือเกิน ตนเองก็หนีทัพมาจะขอติดรถกลับไปแก้แค้น สหัสเดชะอนุญาตให้ลิงน้อยจำแลงติดรถไปด้วย หนุมานออกอุบายอีก เป็นลิงป่าไม่มีอาวุธเลย ขอยืมกระบองท่านจะได้ไหม สหัสเดชะหลงกลใจดีมอบกระบองวิเศษให้ หนุมานคืนร่างใหญ่ดังเดิมแล้ว ไม่ชี้ต้นชี้ปลายแต่หักกระบองทิ้งทันที แถมยังเนรมิตกายใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีก เหยียบท้าวสหัสเดชะ แล้วใช้หางยาวใหญ่มัดตัวจนสิ้นฤทธิ์ ปิดจ็อบด้วยการใช้ตรีเพชรอาวุธคู่กายตัดเศียรสหัสเดชะนำไปถวายพระราม


แม้ตำนานยักษ์คู่แห่งวัดแจ้งทั้งจากเรื่องรามเกียรติ์ หรือเรื่องกำเนิดท่าเตียนกับยักษ์วัดโพธิ์จะต่างกันตามวัตถุประสงค์ของเรื่องเล่า แต่รูปปั้นยักษ์คู่นี้ ทั้งสหัสเดชะและทศกัณฐ์ ล้วนทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมาเยือนและบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก ต่างมีจินตนาการถึง “ยักษ์ไทย” ได้อย่างชัดเจนและสง่างามในความทรงจำ

ติดตามคลิปเต็มได้ที่ 👉 


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2018 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล