จากดราม่าปรากฏรอยสักที่แผ่นหลังของ “ลิซ่า-Blackpink” ศิลปินเกาหลีใต้ชาวไทย จนมีแฟนคลับผู้หวังดีไปเตือนในลักษณะว่าการสักของลิซ่า จะทำให้ไม่สามารถกลับมารับราชการในไทยได้ ทางเราเลยขอพาไปไขข้อสงสัยว่า การที่มีรอยสักสามารถรับราชการในไทยได้หรือไม่
สำหรับบุคคลที่มีรอยสัก หากอ้างอิงข้อมูลจาก พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ในมาตรา 36 ได้ระบุเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้เข้ารับราชการพลเรือน พบว่า ไม่มีการกำหนดลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับการสักไว้แต่อย่างใด
ในส่วนข้าราชการทหาร ระเบียบกองทัพบก ได้อนุโลมให้มีรอยสักในร่มผ้า ซึ่งมองไม่เห็นจากภายนอกเมื่อแต่งกายเครื่องแบบปกติกากีแกมเขียวคอพับแขนยาว และคณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณาแล้วว่าเหมาะสมไม่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของ ทบ.
ระเบียบข้าราชการทหารอากาศ และทหารเรือ กำหนดข้อห้ามลักษณะรอยสักบนร่างกายคล้ายกัน คือ เมื่อสวมชุดกีฬา (เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น) ต้องไม่ปรากฏรอยสักบนร่างกายที่เห็นเด่นชัดนอกร่มผ้า ส่วนรอยสักในร่มผ้า ต้องไม่มีรูป ตัวอักษรข้อความ หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่แสดงถึงความรุนแรง ลามก หรือก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือขัดกับหลักศาสนาวัฒนธรรม และศีลธรรมอันดี
ด้านข้าราชการตำรวจ กำหนดระเบียบว่า ต้องมีรอยสักได้ ไม่เกี่ยวว่าจะอยู่นอกหรืออยู่ในร่มผ้า แต่ต้องไม่มีขนาดใหญ่(ไม่เกิน 16 ตารางเซนติเมตร) หรือมากจนแลดูน่าเกลียด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตรวจร่างกายเข้ารับราชการตำรวจทั้งหมด คุณหมอ รพ.ตร. จะเป็นผู้ตรวจและชี้ขาด
ขณะที่ในต่างประเทศ เจสัน ยัง นักร้องนักแสดงลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ที่เข้ารับราชการตำรวจในออสเตรเลีย โพสต์ภาพบรรยากาศในวันที่ได้รับการเลื่อนขั้น ซึ่งในภาพ เจสัน ใส่เครื่องแบบแขนสั้นปรากฏภาพรอยสักเด่นชัดเต็มแขนทั้ง 2 ข้าง
ฉะนั้น ลิซ่า หรือ ผู้ที่ไม่ได้สักทั่วร่างจนเห็นเด่นชัดนอกร่มผ้า ยังสามารถเข้ารับราชการในไทยได้ ไม่ต้องห่วง...