17 ส.ค.65 - สธ.เตือน “ยาลิ้นฟ้า” กินเองอันตราย แพทย์จัดเป็นยาควบคุม หากนำเสพเองอันตรายถึงชีวิต ส่วนผู้ขาย-ผู้เสพ มีโทษติดคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 7 แสนบาท
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงกรณีวัยรุ่นบางกลุ่มกำลังนิยมใช้ยาลิ้นฟ้า เผยแพร่ในช่องทางโซเชียลมีเดีย และกล่าวอ้างสรรพคุณที่ผิดจากคุณสมบัติจริง โดยระบุว่า “ยาลิ้นฟ้า คือยาโรฮิบนอล” ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของยาในกลุ่มฟลูนิแทรซิแพม(Flunitrazepam) หรืออาจเป็นกลุ่มยาลักษณะเดียวกัน
- จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
- ถือเป็นยาควบคุม ไม่มีขายทั่วไป
- ต้องจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น
- หากสถานพยาบาลใดจ่ายยาดังกล่าวต้องทำรายงานส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- โดยยาดังกล่าวออกฤทธิ์ในการบรรเทาอาการวิตกกังวล สงบประสาท ทำให้นอนหลับ
- สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ
- คลายกล้ามเนื้อ ต้านการชักและกดระบบการหายใจ
- ในทางการแพทย์จึงนิยมใช้เป็นยานอนหลับ ยานำสลบ และสงบประสาทก่อนทำการผ่าตัด เท่านั้น
ซึ่งขณะนี้พบว่าตัวยาดังกล่าว มีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น
- นำไปมอมผู้อื่นให้หมดแรงต่อสู้
- จำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพื่อก่ออาชญากรรม
- โดยลักษณะใช้ผสมในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ Flunitrazepam ออกฤทธิ์กดประสาทแรงขึ้น
รวมทั้งเริ่มมีการนำไปเสพ เพื่อให้เกิดอาการมึนและอวดลิ้นที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า “ขอเตือนว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากอาจเกิดผลข้างเคียง จนถึงแก่ชีวิตได้” เช่น
- หยุดหายใจ หากเสพปริมาณมาก หรือเสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- รวมถึงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่สูงมาก
ทั้งนี้ ผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยาฟลูนิแทรซิแพมและผู้ที่นำไปใช้เสพ ผู้จำหน่าย โฆษณาเชิญชวน ถือว่ามีความผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ผู้ขาย-ผู้เสพ มีโทษติดคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 7 แสนบาท
ด้าน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (ปป.) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร. ) เปิดเผยว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวจากสื่อต่าง ๆ กรณีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมใช้ยาลิ้นฟ้า โดยยาลิ้นฟ้า หรือ ยาโรฮิบนอล ฝากให้ผู้ปกครองหมั่นดูแลบุตรหลานในครอบครัว ไม่ควรนำยามาใช้ในทางที่ผิด ซึ่งเสี่ยงเกิดอันตรายต่อตนเอง และผู้อื่น หรือเป็นเหตุให้เกิดคดีอาชญากรรมได้
•
โดยผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยาฟลูนิแทรซิแพมและยาต้องห้ามชนิดอื่น และผู้ที่นำไปใช้เสพ ผู้จำหน่าย หรือโฆษณาเชิญชวน ถือว่ามีความผิด
- จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกฎหมายบทอื่น ๆ
ขณะนี้ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการสืบสวนเอาผิด กับสถานพยาบาล หรือแหล่งจำหน่ายใด ๆ ในทุกช่องทาง ที่ลักลอบจำหน่ายหรือจ่ายยาดังกล่าวให้กับกลุ่มเยาวชนโดยไม่มีใบสั่งแพทย์
- จะถูกดำเนินคดีทั้งเรื่องการโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษหนัก ทั้งโทษปรับและจำคุก