22 ก.ค.67 - เริ่มขึ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ณ สาธารณรัฐอินเดีย ลุ้นแหล่งประวัติศาสตร์ไทยขึ้นทะเบียนมรดกโลก
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21- 31กรกฎาคม 2567 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยคณะผู้แทนไทยประกอบด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กรมศิลปากร กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ เป็นเลขานุการคณะ โดยมีพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นที่ปรึกษา
ในส่วนของพิธีเปิดการประชุมมีขึ้นในวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย และนางออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เป็นประธานกล่าวเปิด การประชุม โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ อินเดียเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมีความหลายหลายทางวัฒนธรรมและประเพณีร่วมกัน อินเดียประสบความสำเร็จในการส่งเสริมและให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์โบราณสถานไม่เฉพาะแต่ในประเทศยังรวมถึงในต่างประเทศ เช่น ราชอาณาจักรกัมพูชา ที่ผ่านมาอินเดียได้รับโบราณวัตถุที่จัดเป็นสมบัติของชาติที่สำคัญ คืนจากประเทศต่าง ๆ หลายชิ้น นับหนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญในระดับนานาชาติเกี่ยวกับความพยายามในการส่งเสริมความร่วมมือกันในการอนุรักษ์ ปกป้อง และคุ้มครองแหล่งมรดกประเภทต่าง ๆ ทั้งที่จับต้องและจับต้องไม่ได้ให้เป็นสมบัติร่วมกันของทุกคน
รวมทั้งเพื่อส่งผ่านให้กับคนรุ่นถัดไปตามเจตนารมย์ของอนุสัญญาฯ ที่ได้กำหนดไว้ไม่เฉพาะแต่อนุสัญญานี้เท่านั้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีบรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานสมตามเจตนารมย์ในการดำเนินงานของอนุสัญญาที่ได้ตั้งไว้ รวมถึงการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับอนุสัญญาเพิ่มมากขึ้น
สำหรับการประชุมครั้งนี้ วาระการพิจารณาที่สำคัญของไทย คือ การบรรจุแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “สงขลา และชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา” ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลกและการพิจารณาการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติประเภทภูมิทัศน์วัฒนธรรม และเสนอให้เปลี่ยนชื่อแหล่งเป็น “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี” ซึ่งคาดว่าการพิจารณาจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2567