20 ธ.ค. 66 “หัวเหว่ย” บริษัทด้าน It ชื่อดังของจีน เปิดตัวชิปตัวใหม่ Kirin 9006C ขนาด 5NM เล็กที่สุดเท่าที่เคยผลิตได้ นับตั้งแต่โดนสหรัฐอเมริกาแบน โดยก่อนหน้านี้ทางหัวเหว่ยได้เปิดตัวชิป Kirin 9000s ที่ผลิตได้เองในประเทศในระดับ 7NM เป็นที่ฮือฮาของทั่วโลก เนื่องจากการโดนสหรัฐฯ แบน ทำให้จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิปเองได้
โดยตัวชิปได้ร่วมพัฒนากับ SMIC เหมือนเดิม ซึ่งชิปรุ่นนี้จะนำมาใช้ในโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่อย่าง Huawei L540 โดยตัวชิปเป็นชิปแบบ Octa-Core ที่ประกอบไปด้วย ARM CPU A77 4 คอร์ และ A55 4 คอร์ มาพร้อมกับความเร็วสูงสุด 3.13GHz ซึ่งทาง HUAWEI ได้เคลมว่าตัวชิปมีประสิทธิภาพที่แรงกว่าเดิม และประหยัดพลังงานมากขึ้น
สำหรับชิป 9006s เมื่อดูจากสเปคแล้วคาดว่าน่าจะพัฒนามาจาก Kirin 9000 ตัวดั้งเดิมที่เป็นชิปตัวสุดท้ายก่อนโดนสหรัฐฯ
แบน และได้รับการพัฒนาจากบริษัทชิปในประเทศจีนอย่าง SMIC นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของอุตสาหกรรมชิปจีน
บริษัท SMIC ย่อมาจาก Semiconductor Manufacturing International โดย SMIC ก่อตั้งมากกว่าสองทศวรรษแล้ว โดย ริชาร์ด ฉาง ซึ่งเกิดในประเทศจีน เติบโตในไต้หวัน จากนั้นใช้เวลาสองทศวรรษทำงานที่ Texas Instruments บริษัทด้าน IC และ ชิป จากสหรัฐอเมริกา หลังจากออกจาก Texas Instruments ฉางได้ก่อตั้ง SMIC ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีน ที่ให้ทั้งพื้นที่และเทคโนโลยี จน SMIC กลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของจีน
หลังจาก SMIC เริ่มมีบทบาทขึ้นมา ทางการสหรัฐฯ ก็เริ่มหวาดระแวงในศักยภาพการผลิตชิป
โดยการตัดตอนของสหรัฐฯ เริ่มแรกจาก ปี 2020 ทางการสหรัฐฯ กีดกันไม่ให้มีการค้าขายอุปกรณ์ผลิตชิปได้จากสหรัฐฯ
ละประเทศอื่น ๆ แต่ทาง SMIC ได้เตรียมการไว้ก่อน ระหว่างการโดนสหรัฐฯ แบน SMIC ได้กว้านซื้ออุปกรณ์การผลิตชิปจากเนเธอแลนด์และญี่ปุ่นไว้ก่อนแล้ว
โดยเหตุผลที่ทางการสหรัฐฯ
แบน คือทาง SMIC มีความยุ่งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางการทหารของจีน
แต่ทาง SMIC ก็ได้ปฎิเสธมาตลอด
หลังการพัฒนาชิประดับ 5NM ได้สำเร็จของหัวเหว่ย ทำให้ทางสำนักข่าว IT ต่าง ๆ ของตะวันตกต่างออกมาให้ข่าวว่าบางทีตัวชิป Kirin 9006c อาจจะเป็นแค่เพียงเอาชิป Kirin 9000 มาปรับปรุงใหม่เฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรใหม่ เช่นเดียวกับการโจมตีชิป Kirin 9000s ตัวล่าสุดของหัวเหว่ยว่าอาจจะเป็นแค่ชิป 14NM แบบโบราณมาปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลงเท่านั้น
สำหรับชิป Kirin
9006c น่าจะนำมานำร่องใช้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คก่อน
แต่ในอนาคตจะเป็นการนำชิปตัวนี้ลงมาใช้ในโทรศัพท์ HUAWEI รุ่นใหม่ ๆ หรือไม่ ต้องดูกันในอนาคตกันต่อไป
นับว่านอกจากการทำสงครามชิปกันแล้ว
ยังมีการใช้สงครามสื่อกันอีกด้วย ในศึกของสองอภิมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯ