23 เม.ย.64 - อว. เปิดโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เสริมรับมือผู้ป่วยโควิด-19 ให้เพียงพอ ขณะที่ วช. เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้จากงานวิจัย คุณสมบัติช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อรับมือกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้เสี่ยงเตียงผู้ป่วยโรงพยาบาลไม่เพียงพอ โดยมีศาตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดพร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
ศาตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่าขณะนี้เป็นระยะที่เข้าสู่การระบาดรอบใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ได้มอบนโยบายโดยใช้โอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญที่กระทรวง อว. สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย จะได้แสดงให้สังคมเห็นอย่างเต็มที่ว่าที่ประเทศไทยได้ลงทุน เพื่อที่จะสนับสนุนทั้งด้านข้อมูลการวิจัย การวิจัยวิชาการของสถานที่ อุปกรณ์อะไรต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ของประเทศคืออะไรบ้าง
รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม อว.ได้ดำเนินงานร่วมกับกระทรวงสาธารณะสุข เชื่อมโยงระบบโรงพยาบาลสนามทั้งหมดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งการบริหารจัดการเตียงทั้งหมดของประเทศ มีการเปิดดำเนินการ ตั้งแต่การรับส่งผู้ป่วย การรับส่งผู้ติดเชื้อ หรือการรับส่งโดยระบบการบริหารจัดการของสาธารณสุข เมื่อมีผู้ติดเชื้อเข้าสู่โรงพยาบาลหลักมีการประเมินอย่างดีว่าควรจะดูแลในโรงพยาบาลหลักหรืออยู่ในโรงพยาบาลสนาม ดังนั้นการเชื่อมต่อซึ่งกันและกันเป็นเรื่องสำคัญ
ซึ่งในการรับมือการระบาดของโคงิด-19 รอบนี้ กระทรวงอว. ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่สังกัดกระทรวง อว. ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเป็นกองหนุนในการรับมือสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 8,243 เตียง รับผู้ป่วยแล้ว 1,646 เตียง (20%) และคงเหลือรองรับได้อีก 6,597 เตียง (80%) และปัจจุบันได้ขยายจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยเพิ่มเป็น 12,822 เตียงพร้อมทั้งยังมีระบบรองรับและการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงไปยังโรงพยาบาลหลักอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ในเบื้องต้นสามารถรองรับผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 ได้จำนวน 100 เตียง ซึ่งการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ได้ดำเนินการตามคำแนะนำของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ก็คือ ต้องมีความปลอดภัย ทั้งระบบตัวอาคาร ระบบจัดการของเสีย การจัดการอากาศ มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขคอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด มีการจัดโซนนิ่งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เพื่อมิให้มีการแพร่เชื้อไปสู่ภายนอก หรือแพร่ระบาดไปสู่ชุมชน ภายนอก และในอนาคตจะเพิ่มอีก จำนวน 50 เตียง
โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เนื่องจากยังขาดแคลนที่นอน ที่จะนำไปใช้ในโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 วช. จึงได้ส่งมอบนวัตกรรมชุดที่นอนยางพาราจำนวน 200 ชุด แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ด้านดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า นวัตกรรมชุดที่นอนยางพาราเป็นนวัตกรรมที่ต่อยอดมาจากโครงการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหมอนยางพาราระดับชุมชน ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสหกรณ์บ้านพังดาน จังหวัดพัทลุง ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยผลิตจากยางพาราแท้ มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี มีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง รองรับสรีระในการนอน ไม่สะสมฝุ่นและเชื้อโรค สามารถทำความสะอาดได้สะดวก อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 10 ปี อีกด้วย
ซึ่งที่ผ่านมา วช. ยังส่งต่อข้อมูลการวิจัยสำคัญทำให้การดำเนินงานสามารถเตรียมพร้อมให้แน่ใจว่ามีสถานที่พยาบาลมีที่รองรับ มีที่พักที่จะดูแลผู้ติดเชื้อ โดยจะเห็นการขยายการดำเนินงานเพิ่มเติมจากด้านข้อมูล เพิ่มเติมจากด้านยาเวชภัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆ ช่วยเตรียมการให้แน่ใจว่าจะมีโรงพยาบาลสนาม มีสถานที่ในการบริหารจัดการและดูแลผู้ติดเชื้อ